วันจันทร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2552

สวนทาวน์เฮ้าส์

สวนทาวน์เฮ้าส์

การจัดสวนทาวน์เฮ้าส์ค่อนยาก เนื่องจากพื้นที่จำกัด ประมาณ 8 ตร.ม. (2.0x4.0) ส่วนมากมักจะเทคอนกรีต ทั้งๆ ที่คอนกรีต เพิ่มความร้อนให้กับตัวบ้าน และการอยู่แต่ในห้องทำให้เกิดความเครียดโดยไม่รู้ตัว การมีสวนเล็กๆ ขนาดกระทัดรัด มีผลต่อจิตใจมาก จึงควรใช้ประโยชน์จากพื้นที่ตรงนี้ให้มากที่สุด เราอาจปลูกไม้คลุมดิน บางชนิด เช่น หนวดปลาดุก ดีปลี หรือพลูกำมะหยี่ ซึ่งให้ความเขียวและความชุ่มชื้นบนดินทำให้รู้สึกเย็นสบาย พื้นที่บางส่วนปูวัสดุแข็ง เช่น อิฐดินเผา ศิลาแลง หรือหินทราย ไว้ใช้วางชุดสนาม การปลูกไม้ยืนต้น ควรเป็น ต้นไม้ขนาดเล็ก หรือขนาดกลางมีความสูงประมาณ 1.0-1.5 เมตร เช่น โมก แก้ว รำเพย แก้วเจ้าจอม พุด หรือ ปาล์มขนาดเล็ก เช่น หมากเขียว หมากแดง หมากนวล เป็นต้น

สวนหอพัก
ระเบียงของหอพัก โดยทั่วไปจะมีขนาดประมาณ 1.50x2.0 เมตร ค่อนข้างจะคับแคบ แต่ก็สามารถจัดให้เป็น ที่พักผ่อน ได้ด้วยการจัดเก้าอี้และต้นไม้ให้ชิดข้างฝาจะทำให้พื้นที่ดูกว้างขึ้น วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้จัดสวนหอพัก ควรมีน้ำหนักเบา ยกย้ายง่าย เพราะผู้ที่อยู่หอพักไม่ใช่เจ้าของที่ถาวรวัสดุที่มีน้ำหนักเบาได้แก่ กระบะไม้ หรือกระถางพลาสติก หากใช้อย่างใดอย่างหนึ่งก็ควรให้เป็นวัสดุชนิดเดียวกันเพื่อให้กลมกลืนทั้งบริเวณ ต้นไม้ที่ใช้ควรดูแลง่ายสามารถอยู่ในที่ร่มรำไร ถ้าหากมีแสงแดดสาดถึงก็ใช้ไม้ดอกได้

สวนอาคารชุด
สวนอาคารชุดจะมีลักษณะค่อนข้างถาวร เพราะผู้อยู่อาศัยเป็นเจ้าของ ดังนั้นการตกแต่ง จึงไม่ต้องคำนึงถึงการโยกย้ายบ่อยๆ อาจยกระดับพื้นขึ้นตรงบริเวณที่วางชุดนั่งเล่น กระบะต้นไม้อาจมีขนาดใหญ่สักหน่อยก็ได้ การทำโครงไม้ระแนงก็เพื่อไว้แขวนต้นไม้ หรือปลูกไม้เลื้อย ถ้ามีแสงแดดเพียงพอ

สวนอาคารพาณิชย์
โดยทั่วไประเบียงอาคารพาณิชย์ จะมีขนาดค่อนข้างแคบ แต่อาจออกแบบให้ใหญ่ได้หากเจ้าของต้องการ อย่างไรก็ตาม เอกลักษณ์ของ อาคารพาณิชย์ คือเหล็กดัด ดังนั้นจึงน่าออกแบบให้เหล็กดัดมีความสวยงามน่าดู และใช้ประโยชน์ได้มากกว่ากันขโมย เช่น ใช้เป็นที่วาง กระบะต้นไม้ แขวนกระถางต้นไม้ต้นไม้ไม่ควร มีขนาดใหญ่มาก หากมีแสงน้อย เพื่อจะได้สับเปลี่ยนโยกย้ายให้ได้รับแสงโดยทั่วถึง พื้นจะเป็น กระเบื้องหรือไม้ขึ้นอยู่กับรสนิยม และความเหมาะสมของทิศทาง อ่างน้ำล้นเป็นของตกแต่ง ที่อาจเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้ตามความชอบ

สวนบ้านเดี่ยว
หน้าบ้าน ควรเลือกพันธุ์ไม้ปลูกตามความเหมาะสมของทิศทางแดด ตัวเอย่างเช่น ถ้าหน้าบ้านหันไปทางทิศตะวันตก แดดจะส่องเข้า บ้านแรงมาก ในตอนบ่าย ควรปลูกต้นไม้ที่สามารถบังแดดได้เพื่อไม่ให้ผนังบ้านร้อน ถ้าบ้านมีพื้นที่หน้าบ้าน มากพอที่จะปลูกต้นไม้ ให้ร่มเงา เช่น พิกุล จำปี ปีป ซึ่งการดูแลให้ต้นปีปมีใบดกแน่น ต้องหมั่นให้น้ำ มิฉะนั้นปีปจะมีใบโปร่งทำให้ได้ร่มเงาน้อย แต่ถ้าบ้านมีเนื้อที่น้อย ควรปลูกต้นไม้ ที่ไม่กินพื้นที่มากแต่สามารถทำให้ผนังบ้านได้ร่มเงา ได้แก่ ต้นไม้ตระกูลหมาก หรือปาล์ม บางชนิด เช่น หมากเขียว หมากเหลือง หมากนวล เนื่องจากเป็นต้นไม้ที่มีขนาดค่อนข้างกระทัดรัดและรากไม่รบกวน โครงสร้างของอาคาร
ถ้าหากหน้าบ้านหันทางทิศเหนือ หรือ ตะวันออก ปัญหาเรื่องแสงแดดจะน้อย เพราะได้เงาของอาคารช่วยในตอนบ่าย ดังนั้นจะใช้ ต้นไม้ขนาดเล็ก เช่น โมก แก้ว หรือลำดวนก็ได้
หน้าบ้าน เป็นจุดที่ทุกคน ต้องการให้สวย จึงควรจัดเป็นสวนหย่อม และไม่ควรมีต้นไม้ที่ทึบมาก จนมองไม่เห็น หน้าบ้าน หากมีใครไปใครมา และการจัดสวน ที่ให้สีสันบ้างจะให้บรรยากาศต้อนรับแก่ผู้มาเยือน
การทำสนามหน้าบ้าน นอกจากจะให้ความรู้สึกร่มรื่นแล้ว หญ้าจะช่วยเก็บความชุ่มชื้นให้ดิน และช่วยให้ต้นไม้เจริญเติบโตดี และให้ความ เย็นแก่ พื้นดิน บริเวณบ้าน ทำให้บ้านเย็นสบายมากขึ้น ซึ่งทำให้ช่วยลดการใช้แอร์ และพัดลมลงได้

Resource : สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน

พระแม่มารี

พระแม่มารี

:: พระแม่มารี :: ประวัติ :: ทำไมคริสตชนนิกายโรมันคาทอลิก มีความศรัทธาภักดีต่อ "แม่พระ" :: หัวใจของผู้ทุกข์ทน ::

ด้วยว่าแทบเชิงกางเขน ก่อนพระเยซูเจ้าสิ้นพระชนม์ พระแม่ยืนอยู่ที่แทบเชิงกางเขนกับนักบุญยอห์น ณ ที่นั่น พระเยซูเจ้ามองลงมาจากกางเขน แล้วตรัสว่า "สตรีเอ๋ย นี่แน่ะ ลูกของท่าน" และตรัสแก่ศิษย์นั้นว่า "นี่แน่ะ แม่ของเจ้า" (ยน. 19 : 26 - 27)

คริสต์ศาสนา

คริสต์ศาสนา (อังกฤษ: Christianity) เป็นศาสนาแห่งความรัก เพราะพระเจ้าทรงรักมนุษย์ ทรงรักประชากรของพระองค์ทรงสร้างสัตว์ต่างๆขึ้นมาเพื่อรับใช้ เป็นอาหารแก่มนุษย์ และทรงให้มนุษย์ลงสู่นรกเมื่อไม่ศรัทธาในพระเจ้า และเป็นผู้มีความสามารถจ่ายหนี้พระเจ้า (เชื่อว่าคนทุกคนเป็นหนี้พระเจ้าเพราะโลกนี้และชีวิตพระเจ้าเป็นผู้สร้าง) จากรายได้1ใน10ของรายได้ทั้งหมดที่ได้มาต่อพระเจ้าทุกวันอาทิตย์ ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาที่นับถือศรัทธาในพระเจ้าองค์เดียวเชื่อว่าพระเจ้าเป็นผู้สร้างโลกและทุกสิ่งทุกอย่างรวมถึงมนุษย์โดยใช้เวลาเพียง 6วัน และหยุดพักในวันที่7 เมื่อไม่ถึง6000ปีก่อน พระเจ้า คือพระยาเวห์(นิกายโรมันคาทอลิค,นิกายออโธดอกซ์) หรือ พระยะโฮวา(นิกายโปรเตสแตนต์) มีพระเยซูคริสต์เป็นศาสดา คริสต์ศาสนาเชื่อในพระเจ้าหนึ่งเดียวซึ่งดำรงในสามพระบุคคล ในพระลักษณะ"ตรีเอกภาพ" หรือ "ตรีเอกานุภาพ" (Trinity) คือ พระบิดา, พระบุตร และพระจิต(พระวิญญาณบริสุทธิ์) มีพระคัมภีร์คือ พระคริสตธรรมคัมภีร์ หรือ คัมภีร์ไบเบิล (The Bible) ศาสนาคริสต์มีผู้นับถือทั้งหมด 2,100 ล้านคน ถือว่าเป็นศาสนาที่มีจำนวนผู้นับถือมากที่สุดในโลก

ศาสนาคริสต์มีรากฐานมาจากศาสนายูดาย (หรือศาสนายิว) โดยมีเนื้อหาและความเชื่อบางส่วนเหมือนกัน โดยเฉพาะคัมภีร์ไบเบิลฮิบรู ที่คริสตศาสนิกชนรู้จักในชื่อ พันธสัญญาเดิม (The Old Testament) โดยในพระคริสตธรรมคัมภีร์ 5 เล่มแรกจากทั้งหมด 46 เล่มในภาคพันธสัญญาเดิม ที่เรียกว่า เบญจบรรณ/ปัญจบรรพ (Pentateuch) ได้รับการนับถือเป็นพระคัมภีร์ของศาสนายูดาย และศาสนาอิสลาม ด้วยเช่นกัน โดยในพระธรรมหลายตอนได้พยากรณ์ถึงพระเมสสิยาห์ (Messiah) ที่ชาวคริสต์เชื่อว่า คือ พระเยซู เช่น หนังสือประกาศ อิสยาห์ บทที่ 53 เป็นต้น

คริสตชนนั้นมีความเชื่อว่าพระเยซูคริสต์เป็นพระบุตรของพระเจ้าที่มาบังเกิดเป็นมนุษย์ จากหญิงพรหมจรรย์ (สาวบริสุทธิ์) โดยฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า เพื่อไถ่มนุษย์ให้พ้นจากความบาปโดยการสิ้นพระชนม์ที่กางเขน และทรงฟื้นขึ้นมาจากความตายในสามวันหลังจากนั้น และเสด็จสู่สวรรค์ประทับเบื้องขวาพระหัตถ์ของพระบิดา ผู้ที่เชื่อและไว้วางใจในพระองค์จะได้รับการอภัยโทษบาป และจะเข้าสู่การพิพากษาในวันสุดท้ายเหมือนทุกคน แต่จะรอดพ้นจากการถูกพิพากษาให้ตกนรกแต่จะเป็นการพิพากษาเพื่อรับบำเหน็จรางวัลแทนในวันสิ้นโลก (Armageddon) และได้เข้าสู่พระราชัยสวรรค์ แต่ถ้าผู้ใดไม่เชื่อจะถูกปรับโทษหลังความตาย

สูตรทำน้ำผลไม้อร่อยๆ

สูตรทำน้ำผลไม้อร่อยๆ
น้ำแตงโม
ส่วนผสม
เนื้อแตงโม 50 กรัม ( 5 ช้อนคาว)
น้ำเชื่อม 15 กรัม ( 1 ช้อนคาว)
เกลือป่นเสริมไอโอดีน 1 กรัม (1/5ช้อนชา)
น้ำเปล่าต้มสุก 150 กรัม (10 ช้อนคาว)
วิธีทำ
นำเนื้อแตงโม น้ำ น้ำเชื่อม เกลือ ใส่ในเครื่องปั่น นำไปปั้นให้ละเอียด ชิมรสตามชอบ
ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ คุณค่าทางอาหาร มีวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา และวิตามินซี ช่วย ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน คุณค่าทางยาช่วยขับปัสสาวะ ปากเป็นแผล แก้ร้อนใน แก้ กระหายน้ำ

เคล็ดลัพธ์สุขภาพดี 18 วิธีง่ายๆ

สุขภาพดีอาจจะหาซื้อไม่ได้แต่เป็นเจ้าของได้แน่นอน ถ้าสาวๆ ทำตามเคล็ดลับเหล่านี้

1. แอปเปิ้ล แตงโม กล้วย กีวีต้องระวัง
ผลไม้ทั้ง 3 ชนิดนี้มีประโยชน์มาก แต่ถ้าคุณกำลังทานยาปฏิชีวนะอยู่ ผลไม้พวกนี้จะกลายเป็นโทษทันทีเพราะมันบูดในลำไส้ได้ง่าย อาจจะทำให้เกิดอาการอักเสบในระบบทางเดินอาหารได้

2. ผลไม้กับมื้ออาหาร
ก่อนทานอาหารควรจะเรยีกน้ำย่อยด้วยสับปะรดและมะละกอสัก 2-3 ชิ้น ผลไม้สองชนิดนี้มีเอนไซม์ที่จะช่วยให้กระเพาะย่อยอาหารมื้อหลักที่กำลังจะตามลงมาได้ง่ายขึ้น และหลังจากจบมื้ออร่อยแล้วควรตบท้ายด้วยแอปเปิ้ลสัก 1 ชิ้นเพื่อช่วยเพิ่มปริมาณน้ำลายซึ่งจะทำให้จำนวนแบคทีเรียในช่องปากลดลง และช่วยให้เหงือกแข็งแรงด้วย

3. อย่าปล่อยให้หิว
ควรจะทานอาหารให้ตรงเวลาทุกวันแม้จะยังไม่รู้สึกหิวก็ตาม เพราะเวลาที่เราหิวร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนควมเครียดออกมา ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้เป็นประจำก็จะทำให้คุณกลายเป็นสาวเครียด และนำไปสู่อาการความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ หรือเบาหวาน

4. เนื้อสัตว์กับผลไม้ไม่เข้ากัน
ถ้าทานน้อยๆ ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ามื้อไหนคุณทานเนื้อเป็นจำนวนมากแล้วควรจะงดผลไม้ไป เพราะกว่าเนื้อจะย่อยหมดต้องใช้เวลานาน ส่าวนผลไม้ซึ่งย่อยเร็วจะถูกกักอยู่ในกระเพาะ จึงทำให้เกิดกรดในกระเพาะอาหารได้

5. นาฬิกาชีวภาพ
หลักการสุขภาพดีบอกไว้ว่าเราควรจะเข้านอนในเวลาเดียวกันทุกๆ วัน แต่ส่วนใหญ่พอถึงคืนวันศุกร์กับวันเสาร์เรามักจะนอนดึกเพราะถือว่าเป็นวันหยุด การทำอย่างนี้จะทำให้ความเคยชินหรือที่เรียกว่าชีวภาพของร่างกายรวรเร จึงไม่ต้องแปลกใจเลยที่วันจันทร์เราจะง่วงนอนกว่าปกติ

6. ความเครียดทำลายผิว
ถ้าอยากผิวสวย แก่ช้า ดูอ่อนกว่าวัย สิ่งแรกที่ต้องปรับคือความคิดของตัวเราเอง พยายามคิดในทางบวก มองโลกในแง่ดี หลีกเลี่ยงความคิดที่ทำให้ตึงเครียด เพื่อไม่ให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนความเครียดออกทำลายตัวเราเอง

7. หลีกเลี่ยงภาชนะพลาสติก
เพราะความร้อนรวมทั้งรสชาติเผ็ดเปรี้ยว เค็มจากอาหารสามารถเข้าไปกัดเซาะสารสังเคราะห์ในพลาสติกให้ละลายออกปะปนกับอาหารได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะการใช้ภาชนะพลาสติกใส่อาหารเข้าอุ่นในเตาไมโครเวฟยิ่งเป็นสิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยง เพราะเป็นการเสี่ยงต่อมะเร็งเต้านมเป็นอย่างมาก

8. อย่าประมาทอาการไอเรื้อรัง
หลังจากหายหวัดแล้วอาการไออาจจะยังไม่หายไป แต่สาวหลายคนมักจะไม่สนใจเพราะคิดว่าอาการไอเป็นเรื่องชิลๆ แต่ที่จริงอาการไอเรื้อรังร้ายแรงกว่าที่คุณคิด เพราะมันอาจเกิดจากการติดเชื้อไวรัส ยาปฏิชีวนะ ที่หมอให้มารักษาอาการหวัดไม่สามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้ วิธีหยุดอาการไอที่ได้ผลที่สุดคือการดื่มน้ำบ่อยๆ เพื่อลดเสมหะในทางเดินหายใจ และนอนหลับให้เพียงพอเพื่อให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้เต็มที่

9. เท้าและข้อเท้าบวม
ถ้ามีอาการแบบนี้อย่าปล่อยไว้ เพราะฝ่าเท้าเป็นศูนย์รวมของเส้นประสาททั่วร่างกาย ถ้าบริเวณเท้ามีปัญหาก็จะส่งผลถึงร่างกายทุกส่วน วิธีแก้ไขคือให้นั่งยองๆ ทุกวันๆ ละ 15 นาทีจากนั้นก็ขยับข้อเท้าไปข้างหน้าและข้างหลังเพื่อช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น หลังจากนั้นใช้แปรงขนนุ่มๆ แปรงผิวหนังเบาๆ โดยเริ่มจากฝ่าเท้าแล้วค่อยๆ ปัดไล่ขึ้นมาที่ข้อเท้า น่อง ต้นขา ท้อง แขนไปจนสุดที่มือทั้งสองข้าง (ยกเว้นผู้ที่เป็นเบาหวานเพราะเสี่ยงจะเกิดบาดแผล) ตบท้ายด้วยการอาบน้ำอุ่นแล้วตามด้วยน้ำเย็น จะช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น

10. งดเครื่องดื่มคาเฟอีน
เครื่องดื่มพวกนี้ไม่ว่าจะเป็นชาหรือกาแฟ ปกติก็ไม่ควรดื่มอยู่แล้ว แต่ถ้าบังเอิญคุณเป็นโรคปวดหลัง เครื่องดื่มพวกนี้จะเป็นศัตรูของคุณไปทันที เพราะคาเฟอีนจะไปลดการหลั่งสารเอนโดรฟินซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดอาการปวดตามอวัยวะต่างๆ อาการปวดของคุณก็จะไม่หายหรืออาจจะเป็นมากขึ้นด้วย

11. ดื่มน้ำเร็ว...อันตราย
ใครๆ ก็บอกว่าควรจะดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้ว แต่ต้องค่อยๆ ดื่มไปตลอดวัน ไม่ใช่ทั้งวันไม่ดื่มเลย แล้วมารวบยอดเอาในครั้งเดียว เพราะการดื่มน้ำปริมาณมากๆ ในครั้งเดียวอาจทำให้เกิดอาการน้ำเป็นพิษเนื่องจากเลือดเจือจาง และอาจทำให้เป็นตะคริว กล้ามเนื้อเกร็งตามมา ยิ่งถ้าอาการเกร็งไปเกิดที่สมอง หัวใจ หรือปอด ก็อาจจะทำให้ระบบหายใจล้มเหลวและเสียชีวิตได้

12. แดดอ่อนตอนเช้า
แสงแดดยามเช้าจัดว่าเป็นยาตามธรรมชาติที่ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของโดยไม่ต้องเสียเงินซื้อ นอกจากทำให้กระดูกแข็งแรงแล้วยังทำให้อารมณ์ดี เพราะแดดอ่อนๆ มีวิตามินที่ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุข ออกมาต่อต้านอาการซึมเศร้าในตัวเรา คนที่เดินเล่นรับแดดอ่อนจึงมีหน้าตาเบิกบานกว่าคนที่มัวแต่หลบแดดอยู่ในบ้านมาก

13. เบาหวานอย่าทานไข่
ถ้าสมาชิกในครอบครัวคุณคนไหนเป็นเบาหวาน ควรให้เขางดไข่ไปเลย เพราะมีรายงานทางการแพทย์ว่าถ้าคนที่เป็นเบาหวานทานไข่อาทิตย์ละ 1 ฟอง จะมีโอกาสเป็นโรคหัวใจมากขึ้น

14. อยากผอมต้องน้ำเย็น
การดื่มน้ำเย็น 50 ออนซ์ จะช่วยเผาผลาญพลังงานเพิ่มขึ้นวันละ 50 แคลอรี ช่วยให้น้ำหนักลดลงปีละ 2.5 กิโลกรัม เพราะเมื่อเราดื่มน้ำเย็นร่างกายต้องใช้พลังงานในการทำให้น้ำนั้นเปลี่ยนอุณหภูมิเป็นอุณหภูมิปกติก่อน แล้วจึงนำไปใช้ได้ จึงเป็นการใช้พลังงานมากกว่าเดิม

15. สุขภาพดีทันทีที่ตื่น
ถ้าอยากดูแลสุขภาพพร้อมกับการเริ่มต้นวันใหม่ ทันทีที่ตื่นนอนสาวๆ ควรผสมน้ำส้มสายชู (ที่หมักจากผลแอปเปิ้ล) กับน้ำผึ้งในสัดส่วนเท่ากัน ใส่น้ำอุ่นนิดหน่อย คนให้เข้ากันแล้วนำมาดื่ม จะช่วยให้การดูดซึมของระบบลำไส้และการเผาผลาญของร่างกายทำงานได้ดีตลอดวัน

16. ผู้ชายอย่าพลาดมะเขือเทศ
สำหรับหนุ่มซ่าที่กำลังเริ่มมีอาการเตะปี๊ปไม่ดังหรือกลัวว่าจะเป็นหมัน มะเขือเทศคือผลไม้ที่คุณจะพลาดไม่ได้ เพราะมะเขือเทศสุกมีสารโคปีนสูงมาก ช่วยให้ต่อมลูกหมากทำงานได้ดี ประสิทธิ์ภาพและสมรรถภาพต่างๆ จึงทำงานได้เป็นปกติ ถ้าผู้ชายทานมะเขือเทศอย่างน้อยอาทิตย์ละ 10 ผลหรือมากกว่านั้น ความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ก็จะน้อยลง 45 เปอร์เซ็นต์ ที่สำคัญควรจะทานแบบสุกๆ เช่น ทานเป็นน้ำพริกอ่อง สปาเก็ตตี้ เพราะเวลามะเขือเทศถูกความร้อนมันจะปล่อยสารไลโคปีนออกมามากขึ้น

17. ป้องกันกรดในกระเพาะอาหาร
สำหรับที่ท้องอืดบ่อย ควรลดปริมาณการดื่มน้ำผลไม้เข้มข้นอย่างเช่น มะนาว ส้ม ส้มโอ เกรฟฟรุต หรือน้ำมะเขือเทศสดนั่น เพราะน้ำพวกนี้มีกรดมากทำให้ท้องอืด หรือถ้าเสพติดไปแล้วอดไม่ได้จริงๆ ก็อาจจะทำให้เจือจางลงด้วยการผสมน้ำมากๆ

18. หลบอัลไซเมอร์ด้วยเกม
ถ้าไม่อยากเป็นอัลไซเมอร์หรือเป็นโรคขี้หลงขี้ลืม สาวๆ ควรจะฝึกสมองด้วยการเล่นเกมที่ต้องใช้สมาธิ เช่น ปริศนาอักษรไขว้ เกมในคอมพิวเตอร์ หรืออาจจะทำกิจกรรมที่ต้องใช้สมาธิอย่างเรียนดนตรี เล่นหมากรุก เป็นต้น เพราะเกมเหล่านี้จะช่วยให้ระบบประสาททำงานเชื่อมต่อกันอย่างมีประสิทธิภาพ

ความสุข

1. การรักษาสุขภาพทางกายให้แข็งแรง สุขภาพทางกายและสุขภาพทางจิตมีอิทธิพลต่อกันและกัน คนที่มีสุขภาพกายดีย่อมส่งผลให้มีจิตใจร่าเริงเข้มแข็ง การทำให้สุขภาพแข็งแรง ได้แก่การรับประทานอาหารถูกส่วน การพักผ่อนเพียงพอ การรักษาความสะอาดของร่างกาย ตลอดจนการออกกำลังกายอย่างพอเพียง 2. มีความสุขกับการทำงาน การเลือกทำงานที่ชอบหรือการสร้างความพึงพอใจในงานที่ทำ หาวิธีการทำงานให้มีความสุข พร้อมทั้งกำหนดเป้าหมายหลายอย่างภายในขอบเขตที่สังคมยอมรับ ตามความสามารถของตนเอง และมองเห็นหนทางไปสู่ความสำเร็จได้ แล้วลงมือปฏิบัติอย่างตั้งใจก็ย่อมจะเกิดความสุข เกิดความปิติจากความสำเร็จในงานตามมา 3. รู้จักตัวเองอย่างแท้จริง ควรได้สำรวจตัวเองว่าเป็นคนอย่างไร ต้องยอมรับว่าคนเรามีทั้ง ส่วนดีและส่วนเสีย เราต้องมองหาส่วนดี เห็นคุณค่า ชื่นชม พยายามพัฒนาส่วนดี พร้อมทั้งยอมรับในข้อผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นได้ แล้วหาแนวทางปรับปรุงแก้ไข คนที่มีความสุขนั้นไม่ได้หมายความว่าจะไม่เคยพบอุปสรรค ข้อขัดแย้งในใจ หรือไม่เคยพบปัญหา แต่อาจจะเป็นคนที่บางครั้งแก้ปัญหาไม่ได้ จึงต้องใช้ความพยายาม ความอดทน ก็จะสามารถเผชิญปัญหาไปได้ 4. มีอารมณ์ขัน มองโลกในแง่ดี ควรมองหาความสุข ความเพลิดเพลิน เพื่อช่วยลดความตึงเครียดต่างๆ ทำให้อารมณ์ผ่อนคลาย การหัวเราะทำให้จิตใจเบิกบาน มีการกระเพื่อมของหน้าท้อง หัวใจปอดได้ออกกำลัง มีผลถึงกล้ามเนื้อหัวไหล่ แขน หลัง กระบังลม และขา เกิดความพึงพอใจในความสุข นอกจากนี้ไม่ควร มองโลกในแง่ร้าย เวลาจะทำอะไรต้องหาจุดดีของเรื่องนั้นให้พบ เมื่อพบแล้วทำความพอใจและชื่นชม ก็จะเกิดแต่ความดีงาม 5. ไม่ควรเก็บอารมณ์ขุ่นมัว การเก็บกดอารมณ์ทำให้เกิดความ ขุ่นมัว สับสน วุ่นวายใจ เป็นการก่อให้เกิดความตึงเครียด ทางอารมณ์ ผลทำให้สีหน้าหม่นหมอง น่าเกลียด ขากรรไกรประกบกันแน่น ใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอย เหี่ยวย่น ผมสีเทา-ขาว ผมร่วง โรคผื่นคัน พุพอง และสิวตามมา เราควรต้องหาทางระบายอารมณ์ที่ขุ่นมัว โดยการแสดงออกในทางที่สังคมยอมรับและได้ตอบสนองตามความต้องการของเรา แต่ถ้าพบความยุ่งยากใจเพิ่มขึ้น ก็ควรหาวิธีหลีกเลี่ยงเสียก่อน เนื่องจากธรรมชาติของมนุษย์จะเผชิญความตึงเครียดทางอารมณ์ได้ถึง ขีดหนึ่งเท่านั้น จากนั้นต้องหาทางผ่อนคลาย ดังคำกลอนที่ว่า

กาแฟ

- กาแฟ เป็นสินค้าสากลที่ทั่วโลกรู้จักกันดี และมีมูลค่าการส่งออกเป็นอันดับสอง ของโลก ผู้คนทั่วโลกให้ความสนใจกับ "กาแฟ" กันเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น สายพันธ์, การคั่ว, หรือการชงกาแฟ มีอยู่ 2 สายพันธ์ที่นิยมปลูก และเป็นที่นิยมในหมู่นักดื่มกาแฟทั่งหลาย
  • กาแฟอาราบิก้า หรือบราซิลเลียน (Coffea arabica) บราซิล เป็นประเทศที่ส่งออกกาแฟพันธ์นี้มากที่สุดในโลก
  • กาแฟโรบัสตา (Coffea canephora) เวียตนาม เป็นผู้ผลิตเมล็ดกาแฟโรบัสตารายใหญ่ของโลก

กล้วยไข่เชื่อม

ส่วนผสม

กล้วยไข่ห่ามๆ 12 ผล
น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
น้ำ 1 ถ้วยตวง

วิธีทำ

1. ตวงน้ำกับน้ำตาลใส่กระทะทองยกขึ้นตั้งไฟ เคี่ยวจนน้ำตาลละลาย แล้วนำมากรอง นำไปเคี่ยวใหม่จนน้ำตาลเดือด
2. ปอกเปลือกกล้วย ลอกเส้นใยกล้วยออกให้หมด ใส่ในน้ำตาลที่เดือด จะเชื่อมทั้งลูก หรือตัดเป็น 2 ท่อนก็ได้
3. เชื่อมไปสักครู่ จนเห็นว่าสีของกล้วยสุกเหลืองและใสทั่วกัน จึงตักขึ้นใส่จานหรือชามสำหรับรับประทาน

หมายเหตุ ขณะเชื่อมกล้วย จะต้องไม่คน เพราะจะทำให้กล้วยเละและเป็นขน ควรใช้ช้อนตักน้ำเชื่อมราดบนกล้วยเท่านั้น

เศรษฐกิจพอเพียง

เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาที่ชี้แนวทางการดำรงชีวิต ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมีพระราชดำรัสแก่ชาวไทยนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2517 เป็นต้นมา[1][2] และถูกพูดถึงอย่างชัดเจนในวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2540 เพื่อเป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศไทย ให้สามารถดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนในกระแสโลกาภิวัตน์และความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ[3]

เศรษฐกิจพอเพียงมีบทบาทต่อการกำหนดอุดมการณ์การพัฒนาของประเทศ โดยปัญญาชนในสังความไทยหลายท่านได้ร่วมแสดงความคิดเห็น อย่างเช่น ศ.นพ.ประเวศ วะสี, ศ.เสน่ห์ จามริก, ศ.อภิชัย พันธเสน, และศ.ฉัตรทิพย์ นาถสุภา โดยเชื่อมโยงแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงเข้ากับวัฒนธรรมชุมชน ซึ่งเคยถูกเสนอมาก่อนหน้าโดยองค์กรพัฒนาเอกชนจำนวนหนึ่งนับตั้งแต่พุทธทศวรรษ 2520 และได้ช่วยให้แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในสังคมไทย

อาหารไทย

หมูทอดข้าวโอ๊ต
เนื้อสะโพกหมูคลุกข้าวโอ๊ตทอดในน้ำมัน หอมยั่วน้ำลาย



หมูส่วนสะโพกหั่นชิ้น ขนาด 1x1/2x4 นิ้ว 500 กรัม
ไข่ไก่ 2 ฟอง
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
ซอสปรุงรส 1 ช้อนชา
พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
ข้าวโอ๊ต 1 ถ้วยตวง
ผักชี 1 ต้น
แครอทหั่นชิ้นสี่เหลี่ยมยาว 2 นิ้ว 150 กรัม
มันฝรั่งหั่นชิ้นสี่เหลี่ยมยาว 2 นิ้ว 150 กรัม
หัวหอมใหญ่ผ่า 6 ส่วนตามยาว 1 หัว
ซอสพริก 1/3 ถ้วยตวง
ซอสมะเขือเทศ 1/3 ถ้วยตวง


วิธีทำอาหาร

1. ตีไข่ เกลือ ซอสปรุงรสและพริกไทยให้เข้ากันดี จุ่มหมูลงในส่วนผสมไข่ จากนั้นเคล้ากับข้าวโอ๊ตให้ทั่ว นำไปทอดในน้ำมันร้อนจนเป็นสีน้ำตาลอ่อนทั้งสองข้าง ตักขึ้นวางบนกระดาษซับน้ำมัน
2. ใส่แครอท มันฝรั่งและหัวหอมใหญ่ลงทอดในน้ำมันจนเป็นสีน้ำตาล ตักขึ้นวางพักให้สะเด็ดน้ำมัน
3. จัดหมูทอดใส่จานแต่งด้วยแครอท มันฝรั่ง หัวหอมใหญ่และผักชีเด็ดช่อ เสิร์ฟพร้อมซอสพริกและซอสมะเขือเทศ

วันพุธที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2552

เกาะช้าง ข้อมูลการเดินทาง ที่พัก เกาะช้าง


เกาะช้าง นับว่าแหล่งท่องเที่ยวที่มาแรงมากในตอนนี้ เป็นเพราะว่าเกาะช้างอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มีความสวยงาม เดินทางสะดวกสบาย ค่าใช้จ่ายไม่มากนัก เที่ยวได้ทั้งปี และที่สำคัญ เกาะช้าง ยังมีความสมบูรณ์ของธรรมชาติมาก

รู้จักเกาะช้างก่อนไปเกาะช้าง เกาะช้าง เป็นเกาะขนาดใหญ่ มีพื้นที่มากเป็นอันดับสองรองจากเกาะภูเก็ต ส่วนยาวสุดหัวเกาะ-ท้ายเกาะ 30 กิโลเมตร กว้างสุด 14 กิโลเมตร เกาะทั้งเกาะตั้งเป็นอำเภอหนึ่งอำเภอคืออำเภอเกาะช้าง เกาะช้างมีทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ทั้งป่าไม้บนเกาะและแนวปะการัง เพื่อรักษาพื้นที่ไว้ให้ลูกหลานได้ดูกันจึงจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2525 โดยรวมเอาเกาะพื้นที่ใกล้เคียงเข้ามาอยู่ในความดูแลรวม 40 เกาะ แต่เนื่องจากว่าเกาะต่างๆ เคยเป็นที่พื้นที่อยู่อาศัยของประชาชนมาก่อน พื้นที่บางส่วนจึงถูกกันออกจากพื้นที่อุทยานเพื่อเป็นพื้นที่ของประชาชนที่มีโฉนดถูกต้องตามกฎหมายซึ่งมีอยู่แทบทุกเกาะ

ดอกไม้เมืองหนาว ไม้ดอกหอม



รูปดอกไม้ และ ดอกไม้เมืองหนาว จากสถานีเกษตรบนดอยสูงทางภาคเหนือ กำลังปรับปรุงข้อมูลเพิ่ม กล้วยไม้ ดอกไม้ป่า ดอกไม้บนดอยสูง และ ดอกไม้ ที่หาชมยาก เร็วๆ นี้จะเพิ่มดอกไม้เฉพาะถิ่น เป็นดอกไม้ที่อยู่บนดอยสูง แต่ละดอยมีดอกไม้ที่แตกต่างกัน ผมเดินทางตลอดได้พบเห็นดอกไม้สวยๆ จะทยอยเอามาลงให้ชมกัน แวะเข้ามาชมบ่อยๆ นะครับ




หลักการทำงานคอมพิวเตอร์

1.ส่วนประกอบหลักภายใน pc มีอะไรบ้าง
ตอบ 1.central processing (cpu)
2.memmory
3.mainboard
4.power supply
5.hard disk
6.operating system
7.chipset
8.ระบบบัส และ pot ต่อเชื่ม
9.sound card
10.graphic card

2.pc เริมทำงานตั้งแต่เมื่อไร
ตอบ เริ่มทำงานตั้งแต่กดปุ่มเปิดเครื่องและปิดจอภาพ

3.internet และ network คืออุปกรณ์ที่ทำการเชื่อมต่อเข้ากับอะไร
ตอบ เครือข่าย pc ไม่ว่าจะเป็น โมเด็มหรือการ์ดเน็ตเวิร์ค

4.เม็มโมรี่หรือหน่วยความจำ คำที่คุ้นเคยของเม็มโมรี่คืออะไร
ตอบ RAM


วันจันทร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2552

ความรู้ใหม่ การติดตั้ง window xp

การติดตั้ง window xp สามารถทำได้ 2 แบบ คือ
1.การติดตั้งโดยการอัพเกรดจาก window ตัวเดิม
2.การติดตั้งแบแ windows xp แบบลงใหม่ทั้งหมด

การติดตั้งแบบ window xp แบ่งออกเป็น 3 แบบ ดังนี้
1.ติดตั้งแบบการอั๊กเกรดจาก window ตัวเดิม
2.การติดตั้งโดยการบู๊ดจาก CD
3.การติดตั้งจากฮาร์ดดิส